แฟนบอลบ่นอุบแพ็กเกจดู “พรีเมียร์ลีก” ฤดูกาลหน้าราคาโหด-ขึ้นจากเดิมเป็นพัน
แฟนฟุตบอลชาวไทย พากันบ่นอุบไปตามๆ กัน หลังจากที่ “ทรูไอดี” ประกาศราคาแพ็กเกจดูฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2023/24 แบบ Early Bird หรือซื้อก่อนขายจริงออกมา เมื่อช่วงต้นเดือน มิ.ย. 66 ซึ่งปรากฏว่าแพงขึ้นกว่าฤดูกาลที่แล้วคือ 2022/23 มากกว่า 1,000 บาทคำพูดจาก เว็บสล็อต
ราคา Early Bird ของฤดูกาลก่อนนั้น ทรูไอดี ให้ซื้ออยู่ที่ 1,790 บาท แต่ฤดูกาลนี้ขยับขึ้นเป็น 2,900 บาท (จากราคาปกติ 4,290 บาท) แพงขึ้นกว่าเดิม 1,110 บาท
ส่วนแพ็กเกจอื่นๆ มีดังนี้ รายเดือน ราคาอยู่ที่ 399 บาท (รับชม 30 วัน และต่ออายุอัตโนมัติ), 7 วัน 219 บาท และ 1 วัน 179 บาท
ราคาของแพ็กเกจนี้ สามารถดูได้ทั้งทางแอปพลิเคชัน, เว็บไซต์ และกล่องทรูไอดีทีวี ดูสดได้พร้อมกัน 2 อุปกรณ์ และเปิดจำหน่ายตั้งแต่ 1 มิ.ย. 66 จนถึง 9 ส.ค. 66 เท่านั้น
แพ็กเกจนี้ดูได้เฉพาะพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไม่รวมลีกอื่นๆ รวมถึงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และฟุตบอลสโมสรยุโรปอีก 2 ถ้วย โดยถ้าหากแฟนบอลต้องการดูลีกอื่น และบอลยุโรป ต้องซื้อแพ็กเกจ beIN Sports ที่อยู่ในทรูเพิ่มอีกราวเดือนละเกือบ 500 บาท
กรณีดังกล่าวทำให้แฟนบอลในโลกโซเชียลพากันคอมเมนต์ ทั้งในเพจของทรูไอดีเอง และช่องทางอื่นๆ ไปในทิศทางเดียวกันเป็นส่วนใหญ่ว่าราคาสูงเกินไป และแพงขึ้นจากฤดูกาลที่แล้วจนซื้อไม่ลง
คอมเมนต์จากแฟนบอลในเพจ “ทรูไอดี” บางส่วน เช่น “ปีที่แล้ว 1,790 ซื้อไม่ทัน มาได้ที่ 1,990 ปีนี้ 2,900!!! Early bird แล้ว?”
“ราคานี้น่าจะรวม bein ให้สักหน่อย”
“แพงเกินไปเยอะเลยนะครับ ราคานี้ควรได้ bein ด้วยเลยนะ และต้องได้ความละเอียด 4k แล้ว”
“เห็นราคาแล้วกรี๊ดด จะไม่ซื้อก็ไม่ได้ ไม่มีบอลดูก็ลงแดง ถ้าซื้อแพงขนาดนี้ แล้วฤดูกาลหน้ายังได้ไปยูโรป้า จะไม่ซื้อดูแล้วนะ”
สำหรับ ทรูไอดี และทรูวิชั่นส์ ซื้อลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ รอบล่าสุดเมื่อฤดูกาลที่แล้ว โดยซื้อทั้งหมด 3 ฤดูกาล ตั้งแต่ฤดูกาล 2022/23 จนถึง 2024/25 หมายความว่าลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกของประเทศไทยในฤดูกาลหน้า ก็ยังจะเป็นของทรูเหมือนเดิม.